แนะนำ MG ZS และ MG ZS EV ปี 2023 ทุกรุ่น อัพเดตล่าสุด

MG ZS

ทั้ง MG ZS และ MG ZS EV เป็นรถเอสยูวีขนาดซับคอมแพกต์ที่ได้รับความนิยมจากดีไซน์ที่ทันสมัย และความอเนกประสงค์ในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือนอกเมือง พร้อมจุดเด่นในการเป็นสมาร์ทคาร์ อัดแน่นมาด้วยระบบความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง รวมทั้งมีทางเลือกของระบบขับเคลื่อนระหว่างเครื่องยนต์กับระบบพลังงานไฟฟ้าของรุ่น ZS EV ที่เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าโดยมาในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญคือในปัจจุบัน MG เป็นค่ายรถยนต์ที่ทำตลาดในไทยมานานจนทำให้มีศูนย์บริการเพื่อรองรับผู้ซื้อมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในปี 2023 นี้ทาง MG ได้มีการปรับรุ่นใหม่ให้กับรถเอสยูวีทั้ง 2 รุ่นนี้ ผมจึงนำรายละเอียดต่าง ๆ ของรุ่น ZS และ รุ่น ZS EV ในปี 2023 รวมทั้งราคาพร้อมกับข้อดี ข้อเสียของรถมาแนะนำ ส่วนใครที่กำลังมองหารถยนต์ไว้ใช้งานสักคัน ผมขอแนะนำ Roddonjai.com ที่นี่เป็นแหล่งรวมรถมือสองราคาโดนใจ ผ่อนถูก มีรถหลายยี่ห้อให้เลือก สามารถเข้าไปเลือกชมหรือเปรียบเทียบราคาดูก่อนได้เลยครับ

รุ่นและราคา MG ZS ล่าสุดปี 2023

• MG ZS รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
• MG ZS รุ่น D ราคา 719,000 บาท
• MG ZS รุ่น X ราคา 759,000 บาท
• MG ZS รุ่น V ราคา 799,000 บาท

รุ่นและราคา MG ZS EV ล่าสุดปี 2023

• MG ZS EV รุ่น D ราคา 949,000 บาท
• MG ZS EV รุ่น X ราคา 1,023,000 บาท

สีตัวถังของ MG ZS ในปี 2023

• สีขาว Arctic White
• สีแดง Scarlet Red
• สีเงิน Silver Metallic
• สีดำ Black Knight

สีตัวถังของ MG ZS EV ในปี 2023

• สีฟ้า Combo Blue
• สีแดง Scarlet Red
• สีดำ Black Knight
• สีเงิน Cosmic Silver
• สีขาว Arctic White

MG ZS รุ่น C+
 

MG ZS รุ่น C+

ขุมพลัง

MG ZS ทั้งหมดมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 1554C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว  VTi-TECH กำลังสูงสุด 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาทีในการขับเคลื่อน พร้อมใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ CVT 8 จังหวะ

ดีไซน์

ภายใน : ห้องโดยสารของ MG ZS รุ่น C+ ถูกออกแบบมาให้เป็นสีดำตกแต่งด้วยวัสดุ Soft Touch และหุ้มเบาะด้วยผ้ารวมทั้งฟังก์ชันอื่น ๆ อีก เช่น 

• เบาะคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง 
• พวงมาลัยหุ้มหนังปรับสูง-ต่ำได้
• เบาะนั่งด้านหลังพับพนักพิงได้ 60:40
• พื้นที่ก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ
• ที่พักแขนด้านหน้า

ภายนอก : ถูกออกแบบให้มีความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อมเส้นสายด้านข้าง British Shoulder Line ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งไฟหน้าแบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Light) พร้อมกับเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานต่าง ๆ มาให้ เช่น

• ไฟตัดหมอกหลัง
• ไฟท้ายแบบ LED
• ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
• กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวแบบพับอัตโนมัติ
• ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
• ระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
• ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
• สปอยเลอร์หลัง
• ที่เปิดฝากระโปรงท้ายสไตล์สปอร์ต
• ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วมาพร้อมกับยาง 215/50R16

ความปลอดภัย

แม้ MG ZS รุ่น C+ จะเป็นรุ่นล่างสุด แต่ก็อัดแน่นมาด้วยระบบความปลอดภัยครบครันสำหรับผู้อยู่ในรถ เช่น

• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-Lock Brake System)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) 
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
• จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX (International Standards Organization Fix)
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
• เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
• ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
• สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
• ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
• หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว 
• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ
• ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay
• ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย สมาร์ทโฟนระบบ Android 
• ลำโพง 4 ตัว
• มี 4 ช่องต่อ USB 
• กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down ด้านคนขับ
• กระจกมองหลังตัดแสง
• ระบบปรับอากาศดิจิทัล
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key พร้อม Push Start
• ระบบกรองอากาศ PM 2.5
• ช่องจ่ายไฟ 2.5V / ระบบกุญแจรีโมต / ไฟส่องแผนที่

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ MG ZS ทุกรุ่นถูกระบุโดยผู้ผลิตไว้ที่ 6.4 ลิตร/100 กิโลเมตร

MG ZS รุ่น D
 

MG ZS รุ่น D

    
ขุมพลัง

MG ZS รุ่น D มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 1554C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว  VTi-TECH กำลั งสูงสุด 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาทีในการขับเคลื่อน พร้อมใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ CVT 8 จังหวะ

ดีไซน์

• ภายใน : ห้องโดยสารของ MG ZS รุ่น D มีความแตกต่างจากรุ่น C+ ด้วยการมีเบาะหนังสังเคราะห์แทนเบาะผ้า พร้อมกับใช้สีดำและน้ำตาลแต่งในห้องโดยสารเพิ่มความพรีเมียมมากขึ้น รวมถึงหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-Function Display)    
• ภายนอก : ของ ZS รุ่น D ยังคงมีลักษณะมาจากรุ่น C+ แต่มีการเพิ่มราวหลังคาเข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมทั้งความสูงของรถที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,653 มิลลิเมตรเทียบกับ รุ่น C+ ที่มีความสูง 1,628 มิลลิเมตร

ความปลอดภัย

นอกจากอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่มีอยู่ในรุ่น C+ แล้ว ZS รุ่น D ยังมีถุงลมนิรภัยด้านข้าง       และกล้องมองหลังเพิ่มเข้ามา

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

ZS รุ่น D ถูกเพิ่มความสะดวกในห้องโดยสารมากขึ้นด้วยการมีช่องเก็บเอกสารด้านหลังเบาะหน้าเพิ่มเข้ามา รวมไปถึงมีลำโพง 6 ตัวและช่องต่อ USB ให้ใช้ถึง 5 ช่อง

MG ZS รุ่น X
 

MG ZS รุ่น X
 

ขุมพลัง

MG ZS รุ่น X มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 1554C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว  VTi-TECH กำลังสูงสุด 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาทีในการขับเคลื่อน พร้อมใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ CVT 8 จังหวะ

ดีไซน์

• ภายใน : ห้องโดยสารของ ZS รุ่น X ยังคงมีดีไซน์ที่มาจาก ZS รุ่น D แต่มีการเพิ่มในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น
• ภายนอก : ZS รุ่น X มาพร้อมกับหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาให้ความหรูมากขึ้น มีไฟตัดหมอกหน้าเพิ่มทั้งความสวยงามที่ด้านหน้าและความปลอดภัย รวมทั้งเพิ่มความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วที่มาพร้อมกับยาง 215/55R17 โดยที่ยังคงดีไซน์อื่นๆ มาจากรุ่น C+ และ D

ความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยที่มีเพิ่มในรุ่น X ของ ZS คือระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit)

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) มาให้ใช้เพิ่มความสะดวกในการขับขี่
มากขึ้น

MG ZS รุ่น V

 MG ZS รุ่น V

ขุมพลัง

MG Z รุ่น V มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 1554C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว  VTi-TECH กำลั งสูงสุด 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาทีในการขับเคลื่อน พร้อมใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ CVT 8 จังหวะ

ดีไซน์

• ภายใน : ห้องโดยสารของ ZS รุ่น V ไม่ได้ถูกเพิ่มความแตกต่างจากรุ่น X แต่ทาง MG ไปเพิ่มในส่วนของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเข้ามา

• ภายนอก : สิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาภายนอกของ ZS รุ่น V คือระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติที่กระจกหน้า

ความปลอดภัย

ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ม่านถุงลมนิรภัย และกล้องมองภาพรอบทิศทางคืออุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่มีเพิ่มใน ZS รุ่น V

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

จุดเด่นของ ZS รุ่น V ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดคือการมีระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ที่มีการทำงานต่างๆ อย่าง Smart Check ที่มีการทำงาน เช่น ตรวจสอบสถานะของรถหรือค้นหารถ Smart Command ที่มีการทำงานเช่น สั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศ ระบบเลขาส่วนตัว และ Smart Connect ที่มีการทำงาน เช่นระบบนำทางพร้อมรายงานการจราจรแบบเรียลไทม์ ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตริมมิ่ง ระบบค้นหาร้านอาหาร อัพเดตระบบผ่านทางออนไลน์

MG ZS EV รุ่น D
 

MG ZS EV รุ่น D

ขุมพลัง

MG ZS EV ทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 50.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 403 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง พร้อม Kers Mode สามาถชาร์จพลังงานเข้าสู่แบตเตอรี่ระหว่างขับขี่ได้

ดีไซน์

ภายใน : ห้องโดยสารของ MG ZS EV ได้รับการออกแบบโดยเน้นความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ให้มาครบตั้งแต่รุ่น D ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาไม่ถึงหนึ่งล้านบาท

• ตกแต่งภายในด้วยสีดำ
• เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ 
• เบาะคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสรรด้านหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง
• ใช้วัสดุ Soft Touch แต่งภายในห้องโดยสาร
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display)
• เบาะหลังปรับพับพนักพิงได้ 60:40
• พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ

ภายนอก : ของ ZS EV ได้รับการออกแบบให้มีความเรียบง่ายผสานเส้นสายที่ทันสมัย พร้อมมีกระจังหน้า กันชนหน้าแบบ Grille-less ไฟหน้า LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Light) รวมถึงระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ นอกจากนี้รุ่น D ยังเต็มไปอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น 
 

• ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
• กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
• ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
• ระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
• ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
• สปอยเลอร์หลัง
• ที่เปิดฝากระโปรงท้ายสไตล์สปอร์ต
• ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมฝาครอบล้อ Aero Wheel Cover

ความปลอดภัย

ZS EV จัดเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่อัดแน่นมาด้วยระบบความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยแค่ในรุ่น D เต็มไปด้วยระบบการทำงานต่าง ๆ เช่น

• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH 
• (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-Lock Brake System)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอีเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS 
• (Tire Pressure Monitoring System)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Automatic Emergency Braking)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW 
• (Forward Collision Warning - FCW)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Loss Damage Waiver)
• จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX (International Standards Organization Fix)
• เข็มชัดนิรภัยคู่หน้าแบบรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
• เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านลมนิรภัย
• กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
• สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Imobilizer
• ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

รุ่น D ซึ่งเป็นรถรุ่นเริ่มต้นของ ZS EV เต็มไปด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อความสะดวกสบายซึ่งตอบสนองการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน

• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
• ลำโพง 4 ตัว
• หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธหรือ
• ช่องเชื่อมต่อ USB 
• ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay 
• ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย สมาร์ทโฟนระบบ Android
• ระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART
• มีช่องเก็บเอกสารด้านหลังเบาะหน้า
• กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 
• และระบบกรองอากาศ PM 2.5
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Push Start
• ระบบจ่ายกระแสไฟ V2L

อัตราการชาร์จไฟ

ZS EV มาพร้อมกับระบบชาร์จพลังงานแบบเร็วสามารถชาร์จไฟได้ 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนการชาร์จไฟตามปกติผ่าน MG Home Charger ตั้งแต่ 0 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลา 7 ชั่วโมง 15 นาที โดยทาง MG รับประกันแบตเตอรี่นานถึง 8 ปีหรือประมาณ 180,000 กิโลเมตร

MG ZS EV รุ่น X
 

MG ZS EV รุ่น X

ขุมพลัง

MG ZS EV รุ่น  X ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 50.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 403 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง พร้อม Kers Mode สามารถชาร์จพลังงานเข้าสู่แบตเตอรี่ระหว่างขับขี่ได้

ดีไซน์

ภายใน : ZS EV รุ่น X ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดยังคงใช้สีในการตกแต่งและวัสดุหุ้มเบาะมาจากรุ่น D แต่เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมมีที่พักแขนด้านหลังเพิ่มเข้ามา

ภายนอก : ของ ZS EV รุ่น X มีสีฟ้า Combo Blue และสีแดง Scarlet Red ให้เลือกเพิ่ม พร้อมกับเพิ่มหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ราวหลังคา และระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าอัตโนมัติเข้ามา

ความปลอดภัย

รุ่นสูงสุดของ ZS EV มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยทั้ง ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD และระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA เข้ามา

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรุ่น X คือ มีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และมีลำโพง 6 ตัว

ข้อดี-ข้อเสีย MG ZS และ ZS EV

ข้อดีของ MG ZS

• มีความอเนกประสงค์ตามลักษณะของรถเอสยูวี
• ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในของรถทันสมัยสวยงาม
• มีไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Light มาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
• ให้ความสะดวกในการเก็บสัมภาระที่มีความยาวด้วยการแบ่งพับเบาะหลังได้
• มีจอทัชสกรีนตรงกลางมาให้ใช้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
• เต็มไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานทั้งภายนอกและภายในตั้งแต่รุ่นราคาถูกที่สุด
• รุ่นท็อปมีการแต่งห้องโดยสารทูโทนเพิ่มความหรูมากขึ้น

ข้อเสียของ MG ZS

• ด้วยกำลัง 114 แรงม้าจากเครื่องยนต์กับขนาดของรถจึงทำให้อาจมีการออกตัว และเร่งแซงที่ไม่ปราดเปรียวนัก
• มีศูนย์บริการน้อยกว่าค่ายรถยนต์รายใหญ่ที่อยู่มานานกว่า

ข้อดีของ MG ZS EV

• จุดเด่นที่สุดของ ZS EV คือการเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่จับต้องได้
• ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1 ล้านบาท
• ดีไซน์ทันสมัยในสไตล์รถไฟฟ้าที่มีกระจังหน้าแบบปิด
• ใส่อุปกรณ์และระบบความปลอดภัยมาให้มากตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นรวมทั้งระบบสั่งงาน i-SMART ที่ช่วยให้ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น
• รุ่นสูงสุดมีหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามามาให้
• ด้วยกำลัง 150 แรงม้าทำให้มีความคล่องแคล่วในการขับ
• ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเมื่อเทียบกับรถใช้น้ำมัน

ข้อเสียของ MG ZS EV

• อาจมีปัญหาเรื่องการหาที่ชาร์จไฟเมื่อเดินทางไกลหรือไปต่างจังหวัดซึ่งเป็นปัญหาทั่วไปของรถไฟฟ้า
• หลังหมดการรับประกันแบตเตอรี่แล้วหากต้องเปลี่ยนอาจมีราคาสูง
• การชาร์จไฟใช้เวลานานกว่าเติมน้ำมันถึงแม้ว่าจะเป็นการชาร์จเร็วก็ตาม
• มีราคาแพงกว่ารถขนาดเดียวกันที่ใช้น้ำมัน

ความแตกต่างระหว่าง MG ZS และ MG ZS EV

• MG ZS ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ขณะที่ ZS EV ใช้พลังงานไฟฟ้า
• ZS EV มีสีภายนอกให้เลือกมากกว่า ZS
• ทั้ง ZS และ ZS EV มีการออกแบบภายนอกที่แตกต่างกัน
• ZS EV มีแรงม้าและแรงบิดมากกว่า ZS
• ZS EV มีระบบ i-SMART มาให้ใช้ตั้งแต่รุ่นถูกสุด ขณะที่ ZS มีในรุ่นสูงสุด
• ZS EV มีหลากหลายระบบความปลอดภัยมาให้ใช้ตั้งแต่รุ่นถูกสุด

MG ZS 2566

เช็กราคารถมือหนึ่ง-มือสองได้ที่ Roddonjai

ทั้ง MG ZS และ ZS EV จัดเป็นรถเอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และระบบพลังงานไฟฟ้าที่ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคาด้วยอุปกรณ์มาตรฐานต่าง ๆ ที่มีมาให้เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน จึงเหมาะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหารถเอสยูวีไว้ใช้งานซักคันที่มีความคุ้มค่าในเรื่องของราคาทั้งในแบบรถใช้เครื่องยนต์และรถไฟฟ้า